Image Hosted by  turePush

Saturday, September 1, 2018

ทัวร์ตามรอย "เซเลอร์มูน" with เซเลอร์มูน The Miracle 4-D


          เซเลอร์มูน ผลงานอันขึ้นหิ้งของอ.นาโอโกะ ทาเคอุจิ และ โตเอ อนิเมชั่น เป็นการ์ตูนแนวโชโจะที่สาวๆและหนุ่มๆทั่วโลกต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี ความโด่งดังของการ์ตูนเรื่องนี้เรียกได้ว่าไม่มีใครที่ไม่รู้จักเซเลอร์มูน ไม่ใช่แค่ความนิยมเพียงอย่างเดียว แต่การ์ตูนเรื่องนี้ยังกวาดรางวัลจากสถาบันต่างๆมาครองอีกด้วย นอกจากนี้เซเลอร์มูนยังได้ถูกผลิตเป็นสินค้าหลากหลายชนิดและผลิตเป็นสื่อออกมาหลายรูปแบบ อาทิ อะนิเมะ ละครเวที ละครโทรทัศน์ วีดีโอเกม และอื่นๆ

          เมื่อปีที่แล้วการ์ตูนเรื่องนี้มีอายุครบรอบ 25 ปีพอดิบพอดี ทำให้มีโปรเจคต่างๆที่ทำให้เป็นกระแสฮือฮาแก่แฟนๆได้เป็นอย่างมาก อาทิ อะนิเมะรีเมคใหม่ "เซเลอร์มูน คริสตัล", เครื่องเล่น 4-D ในสวนสนุก Universal Studios Japan, การเปิดร้าน Sailor Moon Store และอื่นๆอีกมากมาย รวมถึงในประเทศไทยเองก็เริ่มจะมีสินค้าเซเลอร์มูนออกวางจำหน่ายเช่นเดียวกัน

         แอดมินเองก็มีความฝันว่าอยากจะทัวร์ตามรอยเซเลอร์มูนสักครั้ง และถือโอกาสไปช้อปปิ้งสินค้าเซเลอร์มูนด้วย ว่าแล้วก็ไม่รีรอจัดกระเป๋าเดินทางเตรียมบินไปญี่ปุ่นในทันที โดยแอดมินได้เดินทางไปประเทศญี่ปุ่นช่วงวันที่ 9 - 16 มิถุนายน 2018 โดยขาเข้าไปลงที่สนามบินนาริตะ ส่วนขาออกขึ้นเครื่องที่สนามบินคันไซ


          เรื่องราวของเซเลอร์มูนนั้นส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นที่ย่านอาซาบุจูบัง เขตมินาโตะ เมืองโตเกียว และแน่นอนสถานที่ที่อ.นาโอโกะเขียนเรื่องนี้มันมีอยู่จริงๆ ซึ่งถ้าเราจะไปทัวร์ตามรอยเซเลอร์มูนก็ต้องนั่งรถไฟใต้ดิน Toei Subway สายโอเอะโดะ มาลงที่สถานีอาซาบูจูบังนะจ๊ะ








          พอเรามาถึงสถานีอาซาบุจูบัง (麻布十番駅) ให้เราเดินออกมาที่ทางออกที่ 2 พอเดินขึ้นบันไดมา จะโผล่ทางออกรถไฟใต้ดินที่เคยปรากฎอยู่ในเซเลอร์มูน คริสตัล ACT.2 อามิ -SAILOR MERCURY- ในฉากที่ปีศาจแจกใบปลิวโรงเรียนกวดวิชาอยู่ ซึ่งเมื่อก่อนที่ตรงนี้เคยเป็นป้ายถนนย่านการค้าอาซาบุจูบังมาก่อน (ตามภาพที่ 3 ของอนิเมะ 90) แต่ตอนหลังถูกทุบออกแล้วสร้างเป็นทางเข้า-ออกรถไฟใต้ดินแทน 








         
          พอเราเดินออกมาจากทางออกที่ 2 ของสถานีรถไฟใต้ดินอาซาบุจูบัง ให้เราหันหลังเดินมาทางหน้าหอนาฬิกาของสถานีรถไฟ มองข้ามถนนใหญ่ไปตรงช่วงทางด่วน ตรงนั้นจะมีสวนน้ำพุอิจิโนะฮาชิ (一の橋公園) อยู่ แต่ถูกปิดปรับปรุงพื้นที่ ทำให้ไม่สามารถเข้าไปได้ (ตอนแอดมินไปเมื่อ 2 ปีที่แล้วก็ปิดปรับปรุงเช่นกัน) ซึ่งสถานที่แห่งนี้เคยปรากฎในเซเลอร์มูน คริสตัล ACT.38 ไม่รู้จบ 12 ไม่รู้จบ-การเดินทาง ในฉากที่พวกอุซางิมายืนดูสุริยคราส และปรากฎในภาพยนตร์เซเลอร์มูน R ตอนที่ใช้เซเลอร์เทเลพอร์ตไปหาฟิโอเร รวมทั้งในภาคสตาร์ส ตอนที่ 182 ในฉากที่พวกอุซางิกินไอศครีมแล้วมาเจอเมโอ เซ็ตสึนะ






           หลังจากที่เราอยู่หน้าหอนาฬิกาให้หันหลังกลับ เราจะเห็นทางเข้าย่านการค้าอาซาบุจูบังทั้ง 2 ทาง ให้เรามาทางขวามือแล้วเดินมาประมาณ 70 เมตร จะพบ McDonald's สาขาอาซาบุจูบัง ซึ่งสถานที่ตรงนี้เคยเป็นร้านเกมเซนเตอร์ Crown Game ทีพวกอุซางิชอบไปเล่นหลังเลิกเรียนบ่อยๆ แต่ภายหลังได้ปรับปรุงมาเป็นร้าน McDonald's จนถึงปัจจุบัน











          เดินจาก McDonald's สาขาอาซาบุจูบัง เข้าไปข้างในย่านการค้าอาซาบุจูบังอีก 180 เมตร (ตามแผนที่) จะพบรูปปั้นคิมิจัง (きみちゃん像) ซึ่งถือว่าเป็นแลนด์มาร์คของย่านการค้านี้ก็ว่าได้ สถานที่แห่งนี้ได้ปรากฎในเรื่องเซเลอร์มูนในหลายๆตอน อาทิ เซเลอร์มูน S ตอนที่ 97 ในฉากที่อามิจังนั่งปรึกษาปัญหาชีวิตกับมาโมรุ หรือ เซเลอร์มูน คริสตัล ACT.2 อามิ -SAILOR MERCURY- ในฉากที่อามิพบลูน่าครั้งแรก และ Act.28 ไม่รู้จบ 2 - ระลอก ในฉากที่มิจิรุมอบบัตรคอนเสิร์ตให้มาโมรุ 








          จากนั้นเราจะไปที่สวนอามิชิโระ (網代公園) ซึ่งเดินมาจากลานรูปปั้นคิมิจังประมาณ 140 เมตร โดยสถานที่แห่งนี้เป็นสวนสาธารณะที่พวกอุซางิมานั่งเล่นเป็นประจำ ปรากฎอยู่ในเซเลอร์มูน คริสตัล ACT.2 อามิ -SAILOR MERCURY- ในฉากที่อุซางิและอามิจังเดินกลับบ้านหลังต่อสู้เสร็จ







          หลังจากที่เราได้ทัวร์ย่านการค้าอาซาจูบังเสร็จ เรามีแผนที่จะไปเยี่ยมบ้านของเรย์จัง ซึ่งในระหว่างทางที่เราเดินไปบ้านของเรย์จังที่เป็นศาลเจ้า เราจะผ่าน 5 แยกไฟแดงที่เรียกว่า "เนินเซ็นไดซากะ " (仙台坂) ซึ่งในเรื่องเซเลอร์มูนจะมีการพูดถึงเนินแห่งนี้ว่าเป็นทางลึกลับที่รถบัสผีสิงตอน 6 โมงเย็นหายตัวไป









          พอเราเดินขึ้นมาที่ 5 แยกไฟแดงเนินเซ็นไดซากะ ให้เดินเข้าไปทางขวามือจากทางที่เราเดินขึ้นเนินมา เดินเข้าไปประมาณ 120 เมตร มองทางขวามือจะพบศาลเจ้าฮิคาว่า (麻布氷川神社) ซึ่งเป็นสถานที่ต้นแบบบ้านของเรย์จังทั้งในเวอร์ชั่นหนังสือการ์ตูน และ เซเลอร์มูน คริสตัล







          หลังจากที่เราไปเยี่ยมเรย์จังที่ศาลเจ้าฮิคาว่าเสร็จ ก็เริ่มหิวขึ้นมา เราได้ปรึกษากับเพื่อนๆว่าไปหาอะไรทานที่โตเกียวทาวเวอร์ (東京タワー) กันดีกว่า ว่าแล้วก็เดินไปที่โตเกียวทาวเวอร์กันทันที โดยระยะห่างจากศาลเจ้าฮิคาว่าไปโตเกียวทาวเวอร์ใช้เวลาในการเดินประมาณครึ่งชั่วโมงได้ แต่มีเพื่อนๆเดินไปด้วยกันเลยคุยไปด้วยเดินไปด้วย เพลินดี โตเกียวทาวเวอร์ปรากฎในฉากสำคัญๆของเซเลอร์มูนในหลายๆตอน อาทิ เซเลอร์มูน S ตอนที่ 102 ในฉากที่พวกอัศวินเซเลอร์ต่อสู้กับคาโอริไนท์ หรือ เซเลอร์มูน คริสตัล Act.9 เซเรนิตี้ -Princess- ในฉากที่อุซางิตื่นขึ้นเป็นเจ้าหญิงเซเรนิตี้








          พอทานข้าวที่โตเกียวทาวเวอร์เสร็จ เราก็มีแผนที่จะไปสวนอนุสรณ์อะริสุงะว่าโนะมิยะ (有栖川宮記念公園) ซึ่งจะให้เราเดินย้อนกลับไปก็คงจะไม่ไหว พวกเราเลยยอมนั่งรถไฟจากสถานีอาคะบาเนะบาชิ (赤羽橋駅) ไปลงสถานีรถไฟฮิโระโอะ (広尾駅) จากนั้นก็เดินเข้าไปที่สวนอนุสรณ์อะริสุงะว่าโนะมิยะ ซึ่งสวนแห่งนี้ถือเป็นจุดเดินทางข้ามกาลเวลาไปยังอดีตและอนาคตของเรื่องก็ว่าได้ เช่น ฉากเดินทางไปยังดวงจันทร์เพื่อตามหาอดีตของอัศวินเซเลอร์ หรือ ฉากที่อุซางิน้อยไป-กลับโลกอนาคตในเซเลอร์มูน คริสตัล








          วันต่อมาเราได้เดินทางไปที่ สวนพฤกษชาติจินได (神代植物公園) โดยนั่งรถไฟไปลงที่สถานีมิทากะ (三鷹駅) และต่อรถบัสสาย 56 ไปที่สวนพฤกษชาติจินได (ถ้าหากไม่แน่ใจว่าขึ้นถูกไหมให้ถามคนขับได้เลย) สถานที่แห่งนี้ได้ปรากฎในภาพยนตร์เซเลอร์มูน R ในช่วงแรกของเรื่องที่พวกอุซางิไปเที่ยวสวนพฤกษชาติ และ เซเลอร์มูน S ตอนที่ 116 ในฉากที่อุซางิพาโฮตารุไปเที่ยวสวนพฤกษชาติ








          วันสุดท้ายที่เราได้อยู่โตเกียวก่อนที่จะลงไปโอซาก้า เราได้แวะมาที่ตึกสเฟียร์ทาวเวอร์ (スフィアタワー天王洲) ซึ่งเป็นตึกต้นแบบของโรงเรียนมุเก็นกะคุเอ็น แหล่งกบดานของพวกเดธบัสเตอร์ในเซเลอร์มูน S เฉพาะด้านนอกนะที่เหมือน แต่ทางเข้าประตูจะเหมือนกับอีกตึกนึงที่อยู่ตรงข้ามมากกว่า








          ซึ่งตึกที่ทางเข้าและด้านในเหมือนโรงเรียนมุเก็นกะคุเอ็น นั่นคือตึก Seafort Square (シーフォートスクエア) ภายในตึกนี้จะมีร้านอาหารและร้านค้ามากมาย นอกจากนี้ยังมีโรงละคร THE GALAXY THEATRE (天王洲 銀河劇場) ซึ่งตอนที่เราไปนั้นเป็นช่วงที่ละครเวทีเซเลอร์มูน เวอร์ชั่นโนงิซากะ46 ทำการแสดงพอดี แต่พวกเราไม่ได้เข้าไปดูนะ เนื่องจากบัตรเข้าชมหมดเกลี้ยงทั้งบัตรนั่งและบัตรยืน ท้ายสุดได้แค่ถ่ายภาพช่อดอกไม้ของอ.นาโอโกะ ทาเคอุจิเท่านั้น (ฮา)



          หลังจากที่ภารกิจที่โตเกียวเสร็จสิ้น ติ่งเซเลอร์มูนอย่างเรามีหรือจะพลาดโอกาสกับครั้งแรกที่เซเลอร์มูนได้มาเป็นเครื่องเล่นใน Universal Studios Japan™ ที่มีชื่อว่า เซเลอร์มูน The Miracle 4-D ซึ่งเราได้ซื้อบัตรเข้าสวนสนุกกับพาส Sailor Moon Special Express Pass เตรียมไว้ตั้งแต่ที่เมืองไทยแล้ว โดยจองกับเว็บของ USJ โดยตรง (ใครที่ไม่ถนัดภาษาญี่ปุ่นสามารถจองกับเอเจ้นท์ในไทยได้นะครับ)




          พอเรามาถึง USJ สิ่งแรกที่ทำคือวิ่งตรงดิ่งไปที่โรงภาพยนตร์ 4-D แต่ในระหว่างทางเจอรถเข็นขายคทาคิวตี้ยูนิเวอร์แซลเลยแวะซื้อก่อน เพื่อที่จะเอาไปเล่นกับภาพยนตร์ 4-D หลังจากที่ซื้อเสร็จก็ไปที่โรงภาพยนตร์ แต่ทว่ายังไม่ถึงเวลาที่ต้องเข้าโรงตามเวลาของพาสที่ซื้อไว้ ก็เลยซื้อถังป๊อปคอร์นเซเลอร์มูนก่อน หลังจากนั้นก็แวะไปต่อแถวเข้าชมเซเลอร์มูน The Miracle 4-D



          ความประทับใจหลังจากที่ได้ดูเซเลอร์มูน The Miracle 4-D คือชอบมากๆๆๆๆ กราฟฟิคตอนแปลงร่างและปล่อยพลังของเซเลอร์มูนอลังการสุดๆ นอกจากนี้ดีใจมากๆที่ได้เห็นพวกอัศวินเซเลอร์ในรูปแบบ 4 มิติ ใครที่เป็นติ่งเซเลอร์มูนถือว่าคุ้มมากก ส่วนตัวได้เข้าไปดูถึง 2 รอบ รอบแรกมัวแต่ตื่นเต้นประทับ เลยต้องกลับมาดูรอบ 2 เพื่อเก็บรายละเอียด (ฮา) 

          พอดูเสร็จม่านภาพยนตร์ก็เปิดออกมาเป็นร้านขายสินค้า Exclusive ของเซเลอร์มูน (แบบว่าดูเสร็จพวกเธอก็ต้องมาให้พวกฉันดูดเงินต่อ หนีไม่พ้นหรอกพวกเธอ 555+) มีหรืออย่างเราจะรอดโดนดูดไป 6,000 กว่าบาท ที่ซื้อมาก็จะมีไม้เซลฟี่ คุ้กกี้ ขนม ผ้าเช็ดตัว และอื่นๆ



          หลังจากที่พวกเราช้อปปิ้งเสร็จ เราก็แวะไปเอากระปุกลูกอม Luna P Ball Lamune Case แล้วก็แวะทานอาหารกลางวันที่ Beverly Hills Boulangerie® ด้วยความที่เป็นติ่งเซเลอร์มูนก็สั่งอาหารมาหมดทุกเมนูเลย กินไปกินมาเกือบยัดเข้าไม่หมดเพราะอิ่มจัด แต่ก็ต้องฝืนเพราะเสียดายเงิน (ฮา)


          พอทานเสร็จรู้สึกว่าร่างกายต้องการผู้ชายอย่างแรง เลยแวะไปให้หน้ากากทักซิโด้เกี้ยวพาราสีสักหน่อย ก่อนเข้าไปพนักงานจะมีกฎอย่างเข้มงวดที่เราต้องปฏิบัติตามให้อ่านก่อน จากนั้นก็เข้าไปในห้องสตูดิโอสีแดง แล้วหน้ากากทักซิโด้ก็จะเข้ามาหยอดคำหวานใส่เราและสุดท้ายก็มอบการ์ดพิเศษพร้อมถ่ายรูปคู่เป็นที่ระลึก ตอนออกมาจากห้องเพื่อนบอกว่าเรากรี๊ดเสียงดังมาก แต่เรานี่ไม่รู้สึกตัวเลยว่ากรี๊ด 555+




          ภารกิจสุดท้ายของการมาทัวร์เครื่องเล่นเซเลอร์มูนใน Universal Studios Japan™ นั่นก็คือมาถ่ายภาพที่ระลึกในร้าน Wonder Pix® สำหรับคนที่ซื้อสเปเชี่ยลพาสจะได้ถ่ายฟรี 1 รูป แล้วถ้าอยากได้รูปเพิ่มอีกจะต้องเสียเงินนะจ๊ะ โดยก่อนที่เข้าไปถ่ายรูปเขาจะให้เลือกไอเท็มของอัศวินเซเลอร์ได้ 1 ชิ้น เพื่อเอาไปเป็นพร็อพสำหรับการถ่ายภาพ สำหรับเราเลือกคทาคิวตี้ยูนิเวอร์แซล แล้วรูปถ่ายออกมาก็เป็นแบบด้านล่าง (วิ้งค์)



          สำหรับภารกิจการเล่นเครื่องเล่นเซเลอร์มูนก็จบลงแต่เพียงเท่านี้ ใครที่อยากเล่นเซเลอร์มูน The Miracle 4-D ตอนนี้ทาง USJ เปิดให้เล่นถึงวันที่ 30 กันยายน 2018 เท่านั้น! สาวกพันธุ์แท้บอกได้เลยว่าไม่ควรพลาดจริงๆ 

รายละเอียด: เซเลอร์มูน The Miracle 4-D

          การไปเที่ยวญี่ปุ่นในครั้งนี้สิ่งที่ประทับใจมากที่สุดคือการได้บอร์ดลายเซ็นของอ.นาโอโกะ ทาเคอุจิ ผู้แต่งเรื่องเซเลอร์มูนกลับมาเมืองไทยเนี่ยแหละ เตรียมจัดใส่กรอบติดกำแพงบ้านเก๋ๆ อิอิ และเร็วๆนี้เตรียมพบกับสกู๊ปพิเศษ......!


Image Hosted by PicturePush