Image Hosted by  turePush

Wednesday, December 23, 2015

บทวิจารณ์เซเลอร์มูน เวอร์ชั่น 90 จากนิตยสาร Animage



          บทวิจารณ์เซเลอร์มูนจากนิตยสาร Animage ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 1997 แอดมินพิมพ์มาให้ทุกคนได้อ่าน ลองอ่านกันดูนะว่าเห็นด้วยหรือไม่อย่างไร?

บทวิจารณ์ "เซเลอร์มูน"
          ย้อนอดีตไปเป็นเรื่องของปี 1992 ฉากเปิดตัวละครของทสึคิโนะ อุซางิ ที่มีการแนะนำตัวว่า "สวัสดีค่ะ ฉันชื่อทสึคิโนะ อุซางิ อายุ 14 ปี อยู่ชั้นม.2 นิสัยซุ่มซ่ามและขี้แยนิดๆ" ในตอนนั้นใครจะคิดละว่าอะนิเมะเรื่องนี้จะได้รับความนิยมจนมาถึงบัดนี้

          หลังจากที่เริ่มออกอากาศความนิยมของเซเลอร์มูนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ จนใกล้จะจบภาคแรก บรรดาเด็กๆรวมถึงคนวัยอื่นๆก็หลงใหลได้ปลื้มกันไปทั่วโลก ขนาดวัยผู้ใหญ่ก็ยังต้องกล่าวขวัญ วลีฮิตของอะนิเมะเรื่องนี้ก็ติดหูไปทั่ว ทั้งของเล่นและ CD เซเลอร์มูนก็ออกกันจ้าละหวั่น จะเรียกได้ว่าดังระเบิดเถิดเทิงก็ว่าได้

           เพราะความดังของเซเลอร์มูนทำให้มีอิทธิพลกับอะนิเมะเรื่องอื่นๆตามมาด้วยการเลียนแบบให้เป็นสไตล์สาวน้อยแปลงร่างจนเรียกได้ว่าผู้คนต้องเอามาเป็นแบบอย่าง ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เซเลอร์มูนฮิตติดตลาดได้นั้นจากการวิเคราะห์ นั่นเพราะว่าความสดใสร่าเริง บวกกับความเซ็กซี่ที่ออกมาแนวใสๆแบ๊วๆ คือมนต์เสน่ห์ที่ทำให้แฟนๆติดใจกันถ้วนหน้า และในภาคแรกได้สอดใส่ความโรแมนติกพร้อมกับแทรกมุกตลกโปกฮาได้อย่างเหมาะสม และในแง่ของนวนิยายมีการดำเนินเรื่องได้ดีเยี่ยม ตัวละครมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความสัมพันธ์รัก 3 เศร้าระหว่างอุซางิ เรย์ และมาโมรุ ความรักในเพศเดียวกันของ 4 จตุรเทพ ซึ่งลักษณะของตัวละครทั้งหลายนั้นก็ถือเป็นสิ่งที่ดึงดูดแฟนๆได้เช่นเดียวกัน


เหตุการณ์สำคัญ

  • วันที่ 18 กรกฎาคม 1991 จุดกำเนิดเซเลอร์มูน "รหัสลับ เซเลอร์ V" ถูกตีพิมพ์ในนิตยสารรุนรุน ฉบับฤดูร้อนปี 1991
  • วันที่ 29 ธันวาคม 1991 เซเลอร์มูน ถูกตีพิมพ์ลงในนิตยสาร นากาโยชิ ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 1992
  • วันที่ 9 มิถุนายน 1992 ผู้ออกแบบตัวละครเริ่มทำงานกันอย่างหนัก และตัวละครเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น
  • วันที่ 9 ตุลาคม 1992 ตัวละครมิซูโนะ อามิ ติดอันดับ 1 ใน 10 ตัวละครอะนิเมะยอดนิยม และพุ่งทะยานเป็นอันดับ 1 ในเวลาต่อมา
  • วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 1993 ได้มีการออกอากาศตอนที่ 45 ที่บอกถึงความพ่ายแพ้ในการต่อสู้ของเหล่าอัศวินเซเลอร์ ซึ่งมีเนื้อหาสะเทือนอารมณ์คนดูเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเด็กๆพากันเศร้าถึงกับทานอาหารไม่ลง จนเรื่องราวถูกตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ที่ประเทศญี่ปุ่นอยู่หลายวัน เป็นเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าเซเลอร์มูนเริ่มมีความนิยมในหมู่แฟนๆเพิ่มมากขึ้น
บทวิจารณ์ "เซเลอร์มูน R"
          จากช่วงท้ายของเซเลอร์มูน ภาคแรก พอมาถึงภาคที่ 2 คือ R เนื้อเรื่องก็เริ่มเข้มข้นมากขึ้น ความนิยมก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในภาค R แบ่งออกเป็น 2 เนื้อหาหลักๆ คือตั้งแต่ตอนที่ 47 ถึง 59 เป็นเรื่องราวของเอลกับแอน ส่วนตอนที่ 60 ถึง 88 จะเป็นเรื่องราวของ "อุซางิน้อย" ซึ่งเนื้อเรื่องในช่วงของเอลกับแอนนั้นยังดูไม่จริงจังเท่าไหร่นัก จนมาถึงช่วงของอุซางิน้อย ซึ่งเป็นลูกสาวในอนาคตของอุซางิเดินทางมาในโลกปัจจุบัน และเป็นตัวละครที่สำคัญ พร้อมกับมีเหล่าร้ายกลุ่มใหม่คือแบล็กมูนที่มาสู้รบกันอีกด้วย


          สำหรับความหมายของอักษรย่อ R มีหลายแนวคิด บางคนก็บอกว่าน่าจะหมายถึง Romance หรือ Return ฯลฯ ซึ่งก็มีหลายคนพยายามอธิยายความหมายกันอย่างมากมาย ตัวอย่างเช่น Rabbit ก็น่าจะมีส่วนมากที่สุด เพราะเป็นรหัสลับที่ใช้เรียกอุซางิน้อยด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นการตั้งชื่อภาค R อาจจะหมายถึงเรื่องราวของอุซางิน้อย ซึ่งน่าจะเหมาะสมมากที่สุด

เหตุการณ์สำคัญ
  • วันที่ 10 เมษายน 1993 เซเลอร์มูนชนะรางวัล Anime Grand Prix ครั้งที่ 15 ถึง 4 สาขา ได้แก่ อะนิเมะยอดเยี่ยม ตอนยอดเยี่ยม เพลงยอดเยี่ยม และดารานำหญิงยอดเยี่ยม "มิซูโนะ อามิ"
  • วันที่ 20 มิถุนายน 1993 เจ้าของผลงานเซเลอร์มูน "นาโอโกะ ทาเคอุจิ" ได้รับรางวัลการ์ตูนผู้หญิงยอดเยี่ยมจากสำนักพิมพ์โคดันฉะ
  • วันที่ 3 สิงหาคม 1993 นิตยสารนากาโยชิต้องตีพิมพ์เซเลอร์มูนเพิ่ม จนถึงเดือนกันยายนยอดตีพิมพ์ทะลุเป้า 2 ล้านเล่ม
  • วันที่ 11 สิงหาคม 1993 มีละครเวทีเซเลอร์มูนชุดใหม่ ภาคดาร์กคิงด้อม
  • วันที่ 12 กันยายน 1993 ทีมงานผู้สร้างถูกเชื้อเชิญให้ไปสัมภาษณ์ในรายการทีวียอดนิยมของญี่ปุ่น
  • วันที่ 17 พฤศจิกายน 1993 ได้มีการจัดงานแสดงโชว์เซเลอร์มูนอย่างยิ่งใหญ่เป็นครั้งแรก
  • วันที่ 4 ธันวาคม 1993 ภาพยนตร์เซเลอร์มูน R และเมคอัพ อัศวินเซเลอร์ ฉายในโรงภาพยนตร์ทำรายได้สูงถึง 1,300 ล้านเยน มีผู้เข้าชมมากกว่า 3 ล้านคน
บทวิจารณ์ "เซเลอร์มูน S"
          ภาค S เป็นภาคที่มีคุณภาพและเนื้อหาแข็งแกร่งขึ้น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งในด้านเรื่องราวและตัวละคร ทำให้เกิดความสนุกสนานครื้นเครงมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือได้ว่าภาคนี้สนุกไม่แพ้ภาคแรกเลยก็ว่าได้ ในภาคนี้หากต้องกล่าวถึงตัวชูโรงคงหนีไม่พ้นเซเลอร์เนปจูน ยูเรนัส และพลูโต ที่ได้เข้ามาร่วมต่อสู้ด้วยกันตลอด รวมทั้งยังมีเรื่องราวของเซเลอร์แซทเทิร์น และเหล่าศัตรูทั้งหลาย อาทิ เดธบัสเตอร์ ยูจิอัล และมิเมท ที่มีใบหน้าคล้ายมนุษย์มากที่สุด เรียกได้ว่าเนื้อหาสาระแน่น สามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างเต็มร้อย


          ในส่วนของทีมงานหลังจากสร้างภาพยนตร์ภาค R เสร็จก็ได้มีการระดมทีมขึ้นมาใหม่ โดยเข้ามามีบทบาทบางส่วนในอะนิเมะภาคนี้ เช่น เพิ่มรสชาติในเนื้อเรื่องของเนปจูนกับยูเรนัสให้เข้มข้นมากขึ้น สำหรับภาพยนตร์เซเลอร์มูน S ก็สร้างเรื่องราวความรักของลูน่ากับหนุ่มนักบินอวกาศที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างลึกซึ้งจนเป็นผลงานอีกชุดหนึ่งที่ยอดเยี่ยมมากๆ

เหตุการณ์สำคัญ
  • วันที่ 10 เมษายน 1994 ประกาศผลรางวัล Anime Grand Prix ครั้งที่ 16 ให้เซเลอร์มูนได้รางวัลเพลงประกอบยอดเยี่ยม และตอนยอดเยี่ยมในตอนที่ 45-46 ซึ่งถือได้ว่าเซเลอร์มูนได้รางวัลสาขานี้ 2 ปีติดกัน
  • วันที่ 25 สิงหาคม 1994 นาโอโกะ ทาเคอุจิ ได้เปิดงานแสดงภาพของตัวเองที่หอศิลป์อิเซตัน ซึ่งมีการแสดงภาพต้นฉบับและการออกวางจำหน่ายภาพวาดเป็นครั้งแรก
  • วันที่ 29 พฤศจิกายน 1994 มีการจัดงานแสดงโชว์ และอีเว้นท์ขบวนรถไฟสายเซเลอร์มูน Express ที่เดินทางจากสถานีรถไฟเซบุ ชินจูกุไปยังสวนสนุกเซบุ
  • วันที่ 4 ธันวาคม 1994 ภาพยนตร์เซเลอร์มูน S ออกฉายตามโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ
  • วันที่ 18 ธันวาคม 1994 มีการจัดงานเซเลอร์มูน คริสต์มาสปาร์ตี้อย่างยิ่งใหญ่เป็นประวัติศาสตร์ ณ ฮอลล์ NK อ่าวโตเกียว โดยในงานจะมีการจัดทอล์คโชว์ ละครเวที การพูดคุยกันของทีมงานและนักพากย์อีกด้วย
บทวิจารณ์ "เซเลอร์มูน SuperS"
          ชื่อภาค SuperS มีความหมายคือ ซูเปอร์เซเลอร์มูน และซูเปอร์เซเลอร์มูนน้อย นั่นก็หมายความว่าภาคนี้มีตัวเอกในการดำเนินเรื่อง 2 คน โดยในแกนของเรื่องคือความฝันอันงดงามและความรักระหว่างอุซางิน้อยและเอริออสที่อยู่ในร่างของม้าเพกาซัส


          หลังจากจบภาค S ได้มีการเปลี่ยนทีมผู้เขียนบทจากชุดเดิมประกอบด้วยสุเกะฮิโระ โทมิตะ ชิเงรุ ยานะงาว่า และคัตสึยูกิ สุมิซาว่า มาเป็นโยจิ เอโนะคิโด้ที่รับงานแทน ร่วมด้วยเก็งคิ โยชิมูระ และเรียวตะ ยามางูจิ ซึ่งในระหว่างที่ออกอากาศนั้นก็จะมีการสลับทีมโปรดิวเซอร์บ้าง

          ในภาค SuperS มีเนื้อหาเกี่ยวกับผู้ใหญ่ที่มีความจริงจัง มุ่งมั่นในความฝันและอุดมการณ์ มีการใช้ตัวละครรับเชิญมาเป็นแกนนำของเรื่องในหลายๆตอน ส่วนยูเรนัสกับเนปจูนไม่ได้ปรากฎออกมาในเนื้อหาหลักของภาคนี้ ซึ่งอาจจะทำให้แฟนๆคิดถึงก็เป็นได้ แต่ก็ยังมีตัวละครใหม่ๆมาทำให้มีน้ำหนักเข้มข้นได้ไม่แพ้กัน อาทิ ฟิชอาย แห่งอเมซอนทรีโอ 

          ในภาพยนตร์เซเลอร์มูน SuperS มีการวางเรื่องเกี่ยวกับ ความฝันและการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ โดยอาศัยแนวเรื่องทิศทางเดียวกับภาคทีวี และยังมีตอนเสริมพิเศษ "รักแรกของอามิจัง" ด้วย


เหตุการณ์สำคัญ
  • วันที่ 10 เมษายน 1995 ประกาศผลรางวัล Anime Grand Prix ครั้งที่ 17 ให้เซเลอร์มูนได้รางวัลดารานำหญิงยอดเยี่ยม "เทนโอ ฮารุกะ" และตอนยอดเยี่ยม ซึ่งถือได้ว่าเซเลอร์มูนได้รางวัลในสาขานี้ 3 ปีติดกัน
  • วันที่ 6 มิถุนายน 1995 หนังสือการ์ตูนวางจำหน่ายครบ 10 เล่ม ยอดขายทะลุเป้า 10 ล้านเล่ม
  • วันที่ 2 สิงหาคม 1995 รายการวาไรตี้ทีวี "แฮมเมอร์ไพร์ซ"ได้มีการเปิดประมูลผลงานของนาโอโกะ ทาเคอุจิ 2 ล้านเยน
  • เดือนกันยายน 1995 เซเลอร์มูนออกอากาศที่ประเทศอเมริกา สร้างความฮือฮาไปทั่วประเทศ
  • วันที่ 22 ธันวาคม 1995 มีการจัดงานโปรโมทภาพยนตร์เซเลอร์มูน SuperS ที่โตเอชินจูกุ โดยใช้ชื่องานว่า "Fantastic Night"
  • วันที่ 23 ธันวาคม 1995 ฉายภาพยนตร์เซเลอร์มูน SuperS และตอนพิเศษ รักแรกของอามิจัง รอบปฐมทัศน์
บทวิจารณ์ "เซเลอร์มูน เซเลอร์สตาร์ส"
         นับตั้งแต่เซเลอร์มูน ภาคแรกเปิดตัว ในที่สุดก็ดำเนินเรื่องมาถึงภาคสุดท้ายในภาค "สตาร์ส" ภาคนี้จะคล้ายๆกับภาค R คือเนื้อเรื่องแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ตอนที่ 167 ถึง 172 เป็นการกลับมาของเนเฮเลเนีย และตอนที่ 173 ถึง 200 จะดำเนินเรื่องไปตามภาคหลัก "เซเลอร์กาแลคเซีย" ในภาคนี้จะมีการกลับมาของพวกยูเรนัส รวมถึงการจับคู่ต่อสู้ของวีนัสและพลูโต มีทั้งหมด 34 ตอน ซึ่งไม่สั้นและไม่ยาวจนเกินไป แต่ก็มีบางคนอาจจะเสียดายที่มีจำนวนตอนน้อยเกินไป


          ภาคเซเลอร์สตาร์ส มีความหมายว่าการปรากฎโฉมของเหล่าอัศวินเซเลอร์ผู้ปกครองดวงดาวทั้งหลายแหล่ ซึ่งโครงเรื่องได้วางน้ำหนักให้ต่างจากศัตรูในภาคก่อนๆ ตัวละครใหม่ในภาคนี้ก็จะมี เซเลอร์สตาร์ไลท์ โดยก่อนที่จะแปลงร่างนั้นก็จะเป็นหนุ่มน้อยในมาดบอยแบรนด์ แต่พอแปลงร่างก็จะเป็นสาวน้อยที่มีความสวย และความน่ารัก

          สำหรับทีมงานในภาคนี้ก็มีการเปลี่ยนกันครั้งใหญ่จนจำกันไม่หวาดไม่ไหว โดยจะเน้นคนรุ่นใหม่ไฟแรงเข้าร่วมทีม ซึ่งในภาคนี้ทีมงานจากภาพยนตร์ "รักแรกของอามิจัง" ได้เข้ามามีบทบาทในการทำงาน ทำให้มาตรฐานของผลงานสูงกว่าที่คาดไว้มาก


เหตุการณ์สำคัญ
  • วันที่ 3 กรกฎาคม 1996 บันทึกภาพของอุซางิน้อย ตอน ความลับของร้านแฮมเมอร์ไพร์ซ ถูกตีพิมพ์ลงในนิตยสารนากาโยชิ ฉบับเดือนสิงหาคม 1996
  • เดือนธันวาคม 1996 มีข่าวดังจากหนังสือพิมพ์ "สปอร์ต" ในญี่ปุ่น กล่าวว่าซีรีส์เซเลอร์มูนกำลังจะอวสานในไม่ช้านี้
ที่มาจาก นิตยสาร Animage ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 1997

Image Hosted by PicturePush